การเลือกซื้อ ตู้ Rack Server และอุปกรณ์ต่างๆ
การเลือกซื้อ ตู้ Rack Server และอุปกรณ์ต่างๆ ควรพิจารณาจากหลายปัจจัยเพื่อให้ตรงตามความต้องการของการใช้งานและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด นี่คือแนวทางเบื้องต้น:
1. ขนาดของตู้ RACK SERVER (U SIZE)
- ขนาดของตู้ Rack วัดเป็นหน่วย U (1U = 1.75 นิ้ว)
- ตรวจสอบขนาดของอุปกรณ์ที่จะติดตั้งในตู้ Rack และรวมขนาดทั้งหมดเพื่อเลือกตู้ที่เหมาะสม เช่น 24U, 42U เป็นต้น
- ควรเผื่อพื้นที่สำหรับการขยายตัวในอนาคต
2. ความลึกของตู้ RACK
- เลือกความลึกของตู้ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์และสายเคเบิล เช่น 600 มม., 800 มม., หรือ 1000 มม.
- ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์สามารถติดตั้งและใช้งานได้สะดวก
3. การระบายความร้อนและการระบายอากาศ
- เลือกตู้ที่มีระบบระบายอากาศที่ดี เช่น ตู้ที่มีช่องระบายอากาศ หรือตู้ที่ติดตั้งพัดลม
- อาจต้องพิจารณาระบบทำความเย็นเพิ่มเติมหากมีการใช้งานที่มีความร้อนสูง
4. ประตูและการป้องกัน
- เลือกตู้ที่มีประตูหน้าและหลังเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงอุปกรณ์
- ประตูควรมีระบบล็อคเพื่อความปลอดภัย
- ประตูแบบกระจกหรือเมทัลชีทเพื่อความแข็งแรง
5. สายเคเบิลและการจัดการสาย
- ควรมีระบบจัดการสายเคเบิลเพื่อความเรียบร้อยและการระบายอากาศที่ดี
- มีช่องทางสำหรับการเดินสายเคเบิลที่สะดวก
6. อุปกรณ์เสริมและอุปกรณ์อื่นๆ
- Power Distribution Unit (PDU): สำหรับการจัดการการจ่ายไฟในตู้ Rack
- Cable Management: ระบบจัดการสายเคเบิลต่างๆ เช่น Cable Ties, Cable Managers
- KVM Switch: อุปกรณ์สำหรับควบคุมเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องด้วยคีย์บอร์ด, จอภาพ, และเมาส์เดียว
- Server Rails and Shelves: รางสำหรับติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และชั้นวางอุปกรณ์
7. การติดตั้งและการบำรุงรักษา
- เลือกตู้ที่ติดตั้งและบำรุงรักษาได้ง่าย
- มีคู่มือการติดตั้งและการบำรุงรักษา
- ควรมีการรับประกันจากผู้ผลิต
8. การเลือกผู้ผลิตและแบรนด์
- เลือกผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ในตลาด
- ควรตรวจสอบรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานอื่นๆ
ตัวอย่างแบรนด์ที่น่าสนใจ
- APC by Schneider Electric
- Rittal
- Panduit
- Vertiv
- IBM
การเลือกตู้ Rack Server ที่เหมาะสมจะช่วยให้การจัดการและการบำรุงรักษาระบบเซิร์ฟเวอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ระบบมีความเสถียรและใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง